วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

MSN

 
หน้าต่างหลัก แสดงชื่อเพื่อนๆ

หน้าต่างที่เราคุยกับเพื่อน

MSN Messenger คืออะไร? ทางนี้มีคำตอบครับ เจ้า MSN Messenger หรือที่ เราชอบเรียกกันว่า msn เนี่ย มันก็คือ โปรแกรมส่งข้อความข้าม ระบบเน็ทเวิร์ค แบบทันทีทันใด หรือภาษาฝรั่งเรียกว่า IM (Instant Messenger) ถ้าคุณเคยเล่นโปรแกรม ICQ IRC หรือ Pirch ก็เข้าข่ายเป็นโปรแกรมพวกเดียวกัน แหละครับ!

ทีนี้ทำไม เจ้า msn เนี่ยมันถึงฮิตติดชารจ์ขึ้นมา ก็เนื่องจากความง่ายของการใช้งาน เช่นคุณแค่มี E-mail ของ hotmail หรือ msn คุณก็สามารถเล่นเจ้า msn ได้ทันที แถมมันยังผนวกกับ email ของเราซะอีก โดยที่ เมื่อใดก็ตามที่มีเมล์ เข้ามาถึงเรา เจ้า msn มันก็จะแจ้ง ให้คุณทราบทันที นอกจากนั้น ความเร็วของการ รับและส่งข้อความระหว่างกัน ก็ทำได้อย่างรวดเร็ว หน้าตาโปรแกรมที่สวยงาม แถมเวอร์ชันใหม่ เรายังสามารถใส่รูปของเราได้อีกด้วย! แจ๋วจริงๆ แฮะ

จากรูปด้านบน คือหน้าตาของโปรแกรม msn ครับซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองส่วน

1. หน้าต่างหลัก: ที่หน้าต่างนี้จะแสดงชื่อของเพื่อนๆ เราครับ ทั้งคนที่ online และ offline ซึ่งเวลาเราจะคุยกับเพื่อนคนไหน ก็สามารถดับเบิ้ลคลิ๊ก ที่ชื่อแล้ว หน้าต่างอีกอันจะแสดงขึ้นมา (รูปด้านขวามือ) เราก้อสามารถพิมพ์ข้อความส่งให้เพื่อนได้ทันที

2.หน้าต่างที่เราคุยกับเพื่อน: ที่หน้าต่างนี้เราสามารถพิมพ์ข้อความ คุยกับเพื่อนได้ทันที แล้วคุณยังสามารถให้ msn แสดงรูปภาพของเรา โดยที่ ทางฝั่งเพื่อนของเรา ก็จะเห็นรูปดังกล่าวเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถส่ง icon ต่างๆ เพื่อสื่ออารมณ์ เพิ่มความสนุกสนานในการ chat ได้อีกด้วย

E-mail

E-mail Address - เรื่องของจดหมายอิเลคทรอนิกส์

หลาย ๆ ท่านอาจคุ้นเคยกับการใช้ Email มาบ้างแล้ว แต่อีกหลายท่านก็คงยังไม่เคยใชั ดังนั้นเราลองมาศึกษาพร้อม ๆกับดูซิว่า Emai มีกี่แบบและมีวิธีการใช้งานอย่างไรบ้าง



E-Mail (Electronic Mail) - จดหมายอิเลคทรอนิกส์ คืออะไร
คือจดหมายอิเลคทรอนิกส์ ที่ใช้รับส่งกันโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์บางแห่งใช้เฉพาะภายใน บางแห่งใช้เฉพาะภายนอกองค์กร (สำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ internet) การใช้งานก็เหมือนกับเราพิมพ์ข้อความในโปรแกรม word จากนั้นก็คลิกคำสั่ง เพื่อส่งออกไป โดยจะมีชื่อของผู้รับ ซึ่งเราเรียกว่า Email Address เป็นหลักในการรับส่ง

รูปแบบชื่อ Email Address yourname@it-guides.com

1. yourname คือ ชื่อของคุณ สามารถตั้งเป็นชื่ออะไรก็ได้
2. เครื่องหมาย "@" สำหรับกั้นระหว่าง ชื่อ กับ ชื่อเวปไซท์ หรือ domain name
3. it-guides.com คือ ชื่อเวปไซท์ หรือ domain name

ชนิดของการรับส่ง E-mail

1. รับส่งโดยใช้โปรแกรม Email โดยเฉพาะ เช่น Outlook Express, Eudora
2. รับส่งโดยผ่าน Web site เช่น www.yahoo.com, www.hotmail.com
3. รับส่งโดยผ่าน Web Browser เช่น Netscape, IE เป็นต้น


          การรับส่ง Email โดยปกติจะต้องมีการกำหนด Configuration เพื่อกำหนด Incoming Mail และ Outgoing Mail Server ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยากในการ check mail เนื่องจากบางคนไม่ได้มีเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นของตนเอง หรือบางคนอาจจะต้องเดินทางบ่อย ๆ ทำให้ไม่ค่อยสะดวก ดังนั้น แบบที่ 2 คือ check email ผ่าน Web site จึงมีผู้นิยมมากที่สุดในโลก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องกำหนด Configuration อะไรทั้งสิ้น แค่เพียงคุณสมัครเป็นสมาชิกกับ Web site ที่ให้บริการ แค่จำชื่อ User และ Password เท่านั้น คุณก็สามารถจะตรวจสอบ Email ได้จากที่ต่าง ๆ ทั่วโลก... (การลงทะเบียนเพื่อขอ E-mail แบบที่ 2 นี้จะเป็นการให้บริการฟรี!)
Web site ที่ให้บริการ Email ฟรี ได้แก่
1. www.yahoo.com
2. www.hotmail.com
3. www.thaimail.com
4. www.mweb.co.th


วิธีการใช้งานทั่วไป



1. TO - หมายถึง ชื่อ Email สำหรับผู้รับ
2. FROM - หมายถึง ชื่อ Email สำหรับผู้ส่ง
3. UBJECT - หมายถึง หัวข้อเนื้อหาของจดหมาย
4. CC - หมายถึงสำเนา Email ฉบับนี้ไปให้อีกบุคคลหนึ่ง
5. BCC - หมายถึงสำเนา Email ฉบับนี้ไปให้อีกบุคคลหนึ่ง แต่ผู้รับ (TO) จะไม่ทราบว่าเราสำเนาให้ใครบ้าง
6. ATTACHMENT - ส่ง file ข้อมูลแนบไปพร้อมกับ Email


เทคนิคการใส่ขื่อ Email

1. ปกติชื่อ Email ประกอบด้วย yourname@it-guides.com เป็นต้น แต่เราสามารถใส่ชื่อของเราเพิ่มเข้าไปได้ด้วย ดังตัวอย่าง
Somsri "yourname@it-guides.com"
2. การส่ง Email พร้อมกันหลายคน เราสามารถส่งโดยใช้ช่อง CC ได้ หรือถ้าต้องการส่งในช่อง TO หลายคน เราสามารถใส่เครื่องหมายคอมม่า "," แยกระหว่าง Email ได้




โปรแกรมติดต่อสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต

VoIP (Voice over IP) 
        เป็นการประยุกต์การส่งข้อมูลของอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน  ซึ่งโดยปกติการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะเป็นการใช้สัญญาณข้อมูลเพียงอย่างเดียว  แต่สำหรับการใช้งาน VoIP นั้นจะเป็นการนำเอาสัญญาณเสียงมารวมเข้ากับสัญญาณข้อมูลเพื่อส่งผ่านไปยัง ระบบเครือข่ายผ่านทางโพรโตคอลที่ใช้สำหรับอินเทอร์เน็ตก็คือ  Internet Protocol  หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า IP  ซึ่งตามปกตินั้น IP  จะใช้สัญญาณข้อมูลเท่านั้น  แต่ด้วยเทคโนโลยี VoIP  ที่ทำให้ส่งสัญญาณเสียงได้  ด้วยรูปแบบการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตจึงทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการ โทรศัพท์ได้เป็นอย่างมาก

มาตรฐานของ VoIP


ข้อดีของ VoIP


-  คุณภาพเสียง  ถึงแม้ว่าจะมีราคาและค่าใช้จ่ายในการโทรที่ถูกกว่าโทรศัพท์ทั่วไป  แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือคุณภาพของเสียงสนทนาที่จะด้อยลง  ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการลดคุณภาพของเสียงลงเพื่อที่จะส่งไปยังปลายทางได้ เร็วมากขึ้น
-  อุปกรณ์ในการทำงาน  การโทรศัพท์ด้วย VoIP นั้นถ้าเป็นผู้ใช้งานตามบ้านทั่วไป  ก็จำเป็นที่จะต้องมีทั้งคอมพิวเตอร์  อินเทอร์เน็ต  และไมโครโฟนพร้อมลำโพง  ซึ่งต่างจากโทรศัพท์ธรรมดาที่จะมีเพียงแค่สายโทรศัพท์และตัวเครื่องโทรศัพท์ เท่านั้น
-  ประหยัดค่าใช้จ่าย  ด้วยการนำเอา VoIP มาใช้นั้นจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ  ได้เป็นอย่างมาก  ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์  ซอฟต์แวร์  หรือจะเป็นทางด้านระบบของโทรศัพท์  เพราะเมื่อคิดค่าใช้จ่ายจากค่าบริการหรือค่าอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว  เมื่อมีปริมาณการโทรทางไกลจำนวนมากในระยะยาวก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีก หลายเท่าตัว
-  เหมาะกับการประชุมทางไกล  เมื่อมีเหตุจำเป็นจะต้องประชุมผ่านทางโทรศัพท์ทั่วไปนั้นอาจจะเกิดปัญหาของ การติดต่อสื่อสารได้  แต่ด้วย VoIP จะช่วยทำให้สามารถติดต่อสื่อสารด้วยเสียงไปพร้อมกับการรับส่งข้อมูลได้ทันที
-  รับ-ส่งไฟล์ได้โดยตรง  การติดต่อผ่าน VoIP นั้นจะสามารถส่งไฟล์ให้กันได้โดยตรงผ่านระบบ P2P  โดยอาศัยเพียงแค่ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ VoIP เท่านั้นก็สามารถใช้งานได้

ข้อจำกัดของ VoIP
        การติดต่อสื่อสารในแบบต่าง ๆ  ก็ย่อมต้องมีมาตรฐานขึ้นมาเป็นตัวกำหนดเพื่อให้ผู้ผลิตทั้งทางฮาร์ดแวร์และ ซอฟต์แวร์ได้อ้างอิงการทำงานบนมาตรฐานเดียวกันและ VoIP  จะมีมารฐานอยู่ 2 มาตรฐานด้วยกันคือ  มาตรฐาน H.323  และมาตรฐาน SIP  มาตรฐานเหล่านี้เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า  “Call Control Technologies”  ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการนำเทคโนโลยี VoIP  มาใช้งานสำหรับการสื่อสาร
-  มาตรฐาน H.323
เป็น มาตรฐานที่มีการนำมาใช้งานกันในช่วงแรก ๆ ของเทคโนโลยี VoIP  เสมือนหนึ่งว่าถูกนำมาใช้งานชั่วคราว  เพราะมาตรฐาน H.323 ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานชั่วคราว  เพราะมาตรฐาน H.323 ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับกับการทำงานผ่าน IP  และข้อเสียอีกประการของมาตรฐาน H.323  ก็คือ  จะทำงานได้ค่อนข้างช้า
-  มาตรฐาน SIPด้วย มาตรฐาน SIP  ถือไดว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่ออกมารองรับกับ VoIP ซึ่งถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ IP โดยเฉพาะ  โดยในส่วนของการทำงานนั้นจะทำงานคล้ายคลึงกับการทำงานแบบ Client-Server Protocol  และถือว่ามาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่เหมาะกับการเริ่มต้นใช้งานใหม่เป็นอย่าง มาก

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

สระมรกต จ. กระบี่


 สระมรกต Unseen in Thailand
       สระมรกต สระน้ำสวยใสกลางใจป่า กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ แหล่งสุดท้ายที่พบ นกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเคยสูญพันธ์ไปนานเกือบ 100 ปี ใครจะรู้บ้างไหมว่า ใจกลางป่าผืนนี้มีทั้งสระน้ำสวยใส และนกหายากอยู่รวมกัน  ป่าเขานอจู้จี้  ป่าดินที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มีสภาพเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ แบ่งเป็นป่าดงดิบชื้น และบางส่วนที่เป็นป่าพรุที่มี น้ำท่วมขังทั้งปี สามารถท่องเที่ยวได้สะดวกด้วยการเดินตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ดูพรรณไม้ที่น่าสนใจ เช่น ต้นเตียว ต้นชิง ฯลฯ นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นแหล่งดูนก ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีนกกว่า 300 ชนิด มีนกที่หายากและสูญพันธุ์ จากโลกนี้ไปแล้วเกือบ 100 ปี ซึ่งกลับมาค้นพบที่นี่คือ นกแต้วแร้วท้องดำ และเป็นแหล่งที่มีสระน้ำสวยใสหลายแห่ง อันเกิดมาจากธารน้ำอุ่น ที่สำคัญคือ สระมรกต ที่มีน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลา  และสภาพแสง
สระมรกต สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแต่สภาพที่ดีซึ่งจะเห็นสระเป็นสีเขียวมรกตสดใส มักจะเป็นช่วงเวลาเช้า และเย็น โดยเฉพาะในวันฤดูร้อนที่ท้องฟ้าสดใสปราศจากเมฆฝน




การเดินทาง      จากจังหวัดกระบี่ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 สู่อำเภอคลองท่อม แยกซ้ายมือทางหลวงหมายเลข 4038 มุ่งหน้าอำเภอลำทับ ระหว่างทางมีทางแยกขวามือเป็นทางย่อยแยกเข้าสู่น้ำตกร้อน และสระมรกตที่มีป้ายบอกทางชัดเจน




ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว



        ตลาดโรงเกลือหรือตลาดชายแดนบ้านคลองลึก เป็นตลาดการค้าชายแดนภาคตะวันออกที่ใหญ่ที่สุด  ในประเทศไทย ตั้งอยู่ใน อ. อรัญประเทศ ใกล้กับด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ-ปอยเปต
จังหวัดบันเตียนเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ตลาดโรงเกลือมี 5 ตลาด คือ ตลาดโรงเกลือเก่า ตลาดเดชไทย     
       ตลาดเทศบาล ๒ (ตลาดโรงเกลือใหม่) ตลาดเทศบาล ๓ ( ตลาดโกลเดนเกต) และตลาดเบญจวรรณ มีร้านค้าประมาณ 3,000 ร้าน เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้ามือสองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีสินค้านานาชนิด  ที่แต่ละวัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น จะมีนักท่องเที่ยวนับพันนับหมื่นโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว จะมีนักท่องเที่ยว  มาจับจ่ายซื้อสินค้ามากที่สุด เดินทางมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าแบรนด์เนมราคาถูก คุณภาพดี จากทั่วทุกมุมโลก  มีเงินหมุนเวียนวันละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และสูงขึ้น 10 เท่าในช่วงวันหยุด  มีทั้งสินค้าใหม่และเก่า เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เพชร พลอย เครื่องเงิน  ปลาแห้ง ปลาย่าง ถ้วยชาม จากเขมร เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเคลือบ ถ้วยชาม  ผ้าม่าน ผลไม้จากประเทศจีน เวียดนาม แมลงสารพัดชนิด เช่น แมงป่อง  ตั๊กแตน หนอนไม้ไผ่ ซึ่งแมลงที่นำมาขายถูกแรงงานชาวเขมรทำความสะอาด  เบื้องต้นด้วยการเด็ดปีก เด็ดหาง ล้างน้ำ แล้วเก็บไว้ในห้องเย็นและใส่กระสอบ  เตรียมขายต่อไป
     ตลาดโรงเกลือเป็นศูนย์กลางสินค้าแบรนด์เนมมือหนึ่งและมือสองจากทั่วโลก เกาหลี ฮ่องกง ญี่ปุ่น ปากีสถาน ฝรั่งเศส อเมริกา อังกฤษ เยอรมนี



ปาย จ. แม่ฮ่องสอน


     ปาย...อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย

ความเงียบสงบ ลำน้ำปายสายน้อยที่ไหลเอื่อยผ่านกระต๊อบเล็ก ๆ อันเป็นที่พำนักของนักท่องเที่ยว ภูเขาที่ใหญ่น้อยที่โอบล้อม เป็นสเน่ห์ที่ประทับใจนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้เลือน

ในฤดูฝน ริมลำน้ำปายจะดารดาษไปด้วยทุ่งนาข้าวเขียวขจี และเมื่อย่างเข้าฤดูหนาว ทุ่งนาข้าวก็จะแปรเปลี่ยนเป็นไร่กระเทียมที่ทอดตัวยาวไปจรดเชิงเขา ท่ามกลางสายหมอกเย็นระรื่น

รุ่งเช้า ไอหมอกจากแม่น้ำปาย ค่อย ๆ สะสมปกคลุมไปทั้งตัวเมือง ให้ทุกสิ่งของเมืองปายดูเลือนราง แต่กลับเต็มไปด้วยสเน่ห์

         ปายเมืองสามหมอก ปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจางๆยามเช้าที่ปาย บรรยากาศอันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม 






   

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

วัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร จ.เชียงใหม่


       วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์และเป็นวัดท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนชาวไทยโดยทั่วไป ในฐานะที่เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากวัดหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 14 กิโลเมตร อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,053 เมตร อยู่ในเขตตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่


    องค์พระเจดีย์ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า ดอยสุเทพ แต่เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของฤาษี มีนามว่า สุเทวะ เป็นภาษาบาลี มีความหมายว่า เทพเจ้าที่ดี ซึ่งตรงกับความหมายของคำว่า สุเทพ นั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงได้ ชื่อว่า ดอยสุเทพ ซึ่งมาจากชื่อของฤๅษี คือสุเทวะฤาษี

ตามตำนานกล่าวว่า เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า  ซึ่งได้เสด็จมายังดอยอุจฉุปัพพต เพื่อฉันภัตตาหาร พร้อมด้วยพระสาวก ณ ที่นี้มีย่าแสะแม่ลูกได้ตักบาตรถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้า พระองค์จึงมอบพระเกศาธาตุให้ประดิษฐานไว้ที่ดอยแห่งนี้
ตามประวัติพระเจ้ากือนา กษัตริย์พระองค์ที่ ๘ ของ ราชวงศ์เชียงราย ได้พระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียร จากพระมหาเถรองค์หนึ่งที่ได้นำมาจากเมืองสุโขทัย ในชั้นต้น พระองค์ได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุนี้ไว้ที่วัดสวนดอก ต่อมาปรากฎว่า พระบรมสารีริกธาตุได้แสดงปาฏิหารย์  แยกออกเป็น ๒ องค์  ขนาดเท่าเดิม  พระเจ้ากือนา จึงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวขึ้นบนหลังช้างทรง และตั้งบารมีเสี่ยงช้าง   ช้างทรงได้เดินขึ้นไปบนดอยสุเทพ ครั้นถึงบริเวณที่ตั้งวัดพระบรมธาตุ ฯ  ปัจจุบัน ช้างทรงนั้นก็กระทืบเท้าส่งเสียงร้องไปทั่วบริเวณ  แล้วล้มลง ณ ที่นั้น    พระเจ้ากือนา จึงให้สร้างพระบรมสารีริกธาตุขึ้น ณ ที่นั้น  เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๒๗  เป็นเจดีย์แบบเชียงแสนผสมลังกา 
องค์พระบรมธาตุประดิษฐานอยู่ใต้ดินลึกลงไป ๘ ศอก ดังนั้นจึงห้ามมิให้สตรีเข้าไปภายในฐานเจดีย์  และก่อนที่จะเข้าสู่ภายในบริเวณองค์พระบรมธาตุ   ต้องถอดรองเท้าไว้ที่เชิงบันไดเสียก่อน
มีงานนมัสการในวันเพ็ญวิสาขฤกษ์ ในวันวิสาขบูชาของทุกปี  โดยชาวเชียงใหม่จะถือคบไฟเดินขึ้นดอย และเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุ
 


ดอยตุง - สวนแม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย

 





   ดอยตุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอันดับแรกของเมืองเชียงราย มีชื่อเสียงมากด้านความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาว โดยเฉพาะ สวนแม่ฟ้าหลวง บนดอยตุงนั้น นับได้ว่าเป็นสวนดอกไม้ที่สวยที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นที่ตั้งของ พระธาตุดอยตุง ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงราย ทั้งยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีกุนอีกด้วย

ความเป็นมาของดอยตุง
         ดอยตุง เดิมเป็นเพียงภูเขาหัวโล้นแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย จนกระทั่ง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จมา และทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของป่าต้นน้ำแห่งนี้ จึงทรงริเริ่ม โครงการพัฒนาดอยตุง ในปี 2531 และพัฒนาเป็น มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ทำงานด้านพัฒนาเพื่อสาธารณกุศลเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชนกลุ่มน้อยและชาวไทยภูเขาบนดอยตุงให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น มีศักดิ์ศรีในการดำรงชีวิต คนกับป่าสามารถอยู่ร่วมกันได้ อีกทั้ง ทำงานด้านการอนุรักษ์สืบสานศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ของชาวไทยภูเขาและชาวไทยภาคเหนือ ให้คงอยู่ตลอดไป ภายหลังที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีสวรรคต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และทรงโปรดฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นองค์ประธาน และดูแลการดำเนินงาน ให้เป็นไปตามพระราชณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีสืบต่อมา จนปัจจุบัน

      การเข้าชม พระตำหนักดอยตุงเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00 - 18.00 น. เก็บค่าเข้าชมพระตำหนัก คนละ 70 บาท สวนแม่ฟ้าหลวง 80 บาท และหอพระราชประวัติ 30 บาท หากซื้อตั๋วรวมทั้งสามแห่งจะได้ราคา 150 บาท การเข้าชมจะมีเจ้าหน้าที่นำชมอธิบายความเป็นมาของพระตำหนัก ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ โครงการพัฒนาดอยตุง  อาคารเอนกประสงค์ พระตำหนักดอยตุง โทร. 0 5376 7015 - 7

     การเดินทาง  พระตำหนักดอยตุงอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 60 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 110 ไป 45 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1149 ไปประมาณ 15 กิโลเมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถประจำทางสามารถใช้บริการรถสองแถวสีม่วงบริเวณปากทาง รถออกตั้งแต่ 07.00 น

  ที่พัก ดอยตุง ลอด์จ ห่างจากพระตำหนักดอยตุงระยะเดิน 15 นาที สามารถมองเห็นหมู่บ้านชาวเขา ทุ่งนาป่าสน และดอยตุงในมุมกว้าง ท่ามกลางเสียงใบไม้ และนกร้อง มีห้องพักปรับอากาศเตียงคู่ และเดี่ยว 47 ห้อง พร้อม ทีวี ตู้เย็น เครื่องเป่าผม บริการซักรีด ร้านขายของที่ระลึก ห้องประชุม สัมมนา ร้านอาหารครัวตำหนัก บริการอาหารไทยพร้อมผักปลอดสารพิษเก็บสดจากไร่ในโครงการ 



  

ทุ่งทานตะวัน จ.สระบุรี


เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ของทุกปี ฤดูกาลท่องเที่ยว ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี  ริมฝั่งถนนจะสะพรั่งไปด้วยสีเหลืองของดอกทานตะวัน เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้ผ่านมาบริเวณนี้เป็น อย่างมากจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด และในทุกปีจังหวัดสระบุรี จะจัด เทศกาลทุ่งทาน ตะวันบาน ในทุกปี สลับหมุนเวียนไปในแต่ละอำเภอ / พื้นที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชื่นชม และถ่ายภาพ เป็นที่ระลึก ตลอดจนการ ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปลูกดอกทานตะวัน การนำเอาผลผลิตจาก เมล็ดทานตะวันไป ใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภครวมทั้งการเลือกซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เมล็ดทานตะวันคั่วสด ๆ จากไร่ หรือหาซื้อน้ำผึ้งทานตะวันเป็นของฝากจังหวัดสระบุรีมีพื้นที่ปลูกทานตะวันนับหลายหมื่นไร่ บริเวณเขตติดต่อ ระหว่างจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ตามเส้นทางสายพัฒนานิคม-วังม่วง มีการทำไร่ทานตะวันกันมาก รวมทั้งในอีก หลายอำเภอของสระบุรี เช่น อำเภอพระพุทธบาทแก่งคอย หนองโดน หนองแคและมวกเหล็ก แต่ที่อำเภอ วังม่วงจะมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด

การเตรียมตัวเที่ยวทุ่งทานตะวันให้สนุก
1. เตรียมกล้องถ่ายรูปไปถ่ายรูปสวย ๆ กับดอกทานตะวัน
2. เที่ยวทุ่งทานตะวันควรไปตอนเช้าจะเป็นช่วงที่สวยที่สุด เพราะทานตะวันจะชูช่อรับ พระอาทิตย์ขึ้น หงายหน้า ช่วงเที่ยง และคอตกไปกับดวงอาทิตย์ทุกวัน 3. ทุ่งทานตะวันแต่ละทุ่งมีอายุบานประมาณ 15 วัน เพราะฉะนั้น ควรสอบถามข้อมูลทุ่งทานตะวันบานที่ อบต.แสลงพันอ.วังม่วง จ.สระบุรี โทร.036 364 443





การเดินทางไปทุ่งทานตะวัน จ.สระบุรี

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
ทุ่งทานตะวัน ( อ.แก่งคอย, อ.มวกเหล็ก, อ.วังม่วง)

จากกรุงเทพ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านจังหวัดสระบุรี เข้า อ.มวกเหล็กหรือถ้าใคร ชอบทิวทัศน์ ที่ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนก็ใช้เส้นทางเลี้ยวซ้ายเข้าแก่งคอยแล้วค่อยออกไปตามทางไป เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็ได้ จาก เส้นทาง อ.มวกเหล็ก ให้ขับรถไปเรื่อย ๆ ตามป้ายบอกทางไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เส้นทางนี้จะผ่านเส้นทางที่ เป็นอุโมงก์์ต้นไม้ และเนินมหัศจรรย์ ผ่านอุโมงก์ต้นไม้และเนินมหัศจรรย์ก็จะพบกับทุ่งทานตะวัน เล็กบ้างใหญ่บ้าง ขับรถกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ จะเจอป้ายบอกทางไปทุ่งทานตะวัน อ.วังม่วง และหลังจากเที่ยวทุ่งดอกไม้งามแล้ว ย้อนกลับ ็ทางเดิม สามารถไปเที่ยวชมเขื่อนป่าสัก ฯ ได้อีก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทุ่งทานตะวันมากนัก หลังจากเที่ยว ทุ่งทานตะวันแล้วก็กลับมาทางมวกเหล็กแวะเที่ยวชมไร่องุ่นได้อีกด้วย
ทุ่งทานตะวันเส้นสระบุรี ถึง ลพบุรี
จาก กรุงเทพ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านจังหวัดสระบุรี จนถึงแยกพุแค เลี้ยวซ้ายตามทางหลวง หมายเลข 21 (ทางไปเพชรบูรณ์) ไปจนถึงสี่แยกพัฒนานิคม ซึ่งจะตัดกับทางหลวงหมายเลข 3017 ลพบุรี - วังม่วง เส้นทางสายนี้ตลอดสองข้างทางจะเหลืออร่ามไปด้วยทุ่งทานตะวัน และยังรวมถึงบริเวณวัดเขาจีนแล อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก และเส้นทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ



น้ำตกเหวนรก จ.นครนายก

ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงที่สุด อยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านหน้าผาชั้นนี้จะพุ่งไหลลงสู่หน้าผาชั้นที่ 2 และ 3 ที่อยู่ถัดลงไปใกล้ ๆ กันในลักษณะการไหลตก 90 องศา รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลทะลักไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง ในฤดูฝนน้ำจะไหลแรงมากจนดูน่ากลัว

การเดินทางการเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำได้ 2 เส้นทางด้วยกัน คือ จากกรุงเทพฯ ตามถนนพหลโยธิน เลี้ยว ขวาเข้าสู่นครนายก และใช้ทางหลวงหมายเลข 33 ถนนสุวรรณศรที่มุ่งสู่จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อถึงสี่แยกเนินหอม จะพบทางแยกซ้ายมือขึ้นสู่เขาใหญ่ (ทางหลวงหมายเลข 3077) บริเวณกิโลเมตรที่ 21-22 จะพบทางแยกเข้าสู่ น้ำตกเหวนรก จอดรถไว้ปากทาง และต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร สามารถจะเดินทางไปชมน้ำตกชั้นแรกได้ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จัดทำบันไดลงไปตามผาหิน บริเวณหน้าอ่างน้ำตกมีระเบียงยื่นออกไปชมน้ำตก และสามารถจะลงไปได้แค่ชั้นนี้เท่านั้น เพราะชั้นล่างลงไปอีก 2 ชั้น เป็นผาหินชัน ซึ่งเป็นเส้นทางที่อันตรายอย่างยิ่ง ทางอุทยานฯ ได้ปิดตาย ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินลงไป
                อีกเส้นทางหนึ่ง จากกรุงเทพฯ โดยถนนพหลโยธิน ผ่านรังสิต สระบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 หรือถนนมิตรภาพ ผ่านมวกเหล็กถึงปากช่อง บริเวณกิโลเมตรที่ 56 มีป้ายบอกทางแยกไปเขาใหญ่ ให้ชิดซ้ายข้าม สะพานลอยเข้าสู่ถนนธนะรัชต์ ประมาณ 23 กิโลเมตร จะถึงด่านตรวจของอุทยานฯ เขาใหญ่ จากนั้นเส้นทางจะขึ้น เขาสูงชันคดเคี้ยวอีกราว 15 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งหากจะไปเที่ยวชมน้ำตกเหวนรก จะต้องใช้เส้นทางหมายเลข 3077 หรือเส้นทางที่จะลงมาสู่จังหวัดปราจีนบุรี สำหรับที่พักแรมนั้น ทางอุทยาน แห่งชาติเขาใหญ่ได้จัดพื้นที่กางเต็นท์ไว้บริเวณผากล้วยไม้ มีห้องน้ำและร้านค้า มีอาหารบริการ แต่ต้องแจ้ง ขออนุญาตเข้าพักได้ ณ ที่ทำการบนอุทยานฯ ก่อน 16.00 น.

ข้อควรระวัง
                 นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชมน้ำตกเหวนรก โดยเฉพาะในหน้าน้ำหลาก ควรระมัดระวัง ไม่ควรเข้าไปใกล้ริมน้ำ ของผาด้านบนน้ำตกจนเกินไป เพราะผาหินจะลื่น และกระแสน้ำจะพัดแรง ปะทะหินเป็นระลอก ทำให้เกิดคลื่นพัด กวาดขึ้นมาเป็นระยะ ๆ นักท่องเที่ยวที่เข้าไปใกล้บริเวณนี้ อาจถูกคลื่นกวาดตกลงไปในสายน้ำที่เชี่ยวกราก และถูก พัดตกลงไปในเหวเบื้องล่าง สายน้ำที่เชี่ยวกรากของธารน้ำตกเหวนรกนั้นอันตรายมาก มีช้างป่าถูกพัดตกลงไปเสีย ชีวิตเป็นจำนวนหลายตัว นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังให้ดี




วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

ทะเลแหวก จ.กระบี่

ทะเลแหวก อัศจรรย์ Unseen Thailand
    ลึกล้ำเข้าไปกลางทะเลลึกแห่งอันดามัน ช่วงเวลาหนึ่งที่เรานั่งเรือชมเกาะรูปร่าง สวยงามแปลกตา ใครจะเชื่อว่า อีกชั่วข้ามเวลาหนึ่งทะเลที่เราผ่านมาชั่วครู่ จะลดระดับน้ำดุจทะเลแหวกออกจนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาดเชื่อม เกาะสองเกาะสองเกาะอย่างน่าอัศจรรย์  ควรมาชมในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวันก่อน และหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวทะเลแหวกคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึง ต้นพฤษภาคม   จุดเด่น ของการเที่ยวชมทะเลจะแหวกคือการมาชมวิว ถ่ายภาพ ควรหลีกเลี่ยงการมาเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาล ทะเลแหวกจะมีคนเยอะเดินกันจนแน่นไปหมด 


 

การเดินทาง
 
    ทะเลแหวก ไม่มีเรือโดยสาร การมาเที่ยวเกาะห้องต้องเช่าเรือมา มีทั้งเรือหางยาว และเรือ Speedboat ราคาขึ้นลงตามราคาน้ำมัน ราคาชัวร์ๆ สอบถามได้ที่ท่าเรืออ่าวนาง ประหยัดและสะดวกสำหรับคณะที่มากันเป็นหมู่คณะ
 
   หรืออีกแบบหนึ่งคือ เที่ยวโดยซื้อแพคเก็จทัวร์ สะดวก ไม่ต้องติดต่ออะไรมาก ตอนเช้ามีรถไปรับถึงโรงแรม ตอนเย็นไปส่งกลับถึงโรงแรม หรือถ้าเดินทางมาโดยรถทัวร์  ลงรถแล้วรออยู่ที่ท่ารถ บขส. ตอน 8.00 - 8.15 น. จะมีรถไปรับถึงที่ท่ารถ รถจะวิ่งรับตามจุดไปเรื่อยๆ แล้วพามาลงเรือที่อ่าวนาง